เปิดใจลูกชายปู่ย่าโควิด-19 ร่ำไห้ขอโทษสังคม ลั่น ไม่ตั้งใจปิดประวัติ

จากกรณีที่ปู่ย่าไปติดเชื้อโควิด-19 หลังกลับมาจากประเทศญี่ปุ่น และทำให้หลานติดเชื้อนี้ตามไปด้วย จนเป็นเหตุให้ต้องมีการปิดโรงเรียนพระหฤทัยดอนเมือง และเมื่อปู่ย่าไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็มีการปกปิดอาการนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 รายการทุบโต๊ะข่าวได้ลำดับเวลาช่วงเวลาในเรื่องนี้ โดยพบว่าคุณปู่ คุณย่า ได้เดินทางกลับมาที่เมืองไทยเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2563 ตอนนั้นคุณย่าไม่มีอาการป่วยแต่คุณปู่ป่วยปกติ ลูกชายคิดว่าที่พ่อป่วยเพราะแพ้อากาศที่ญี่ปุ่นมากกว่า

ระหว่างนั้น บุคคลที่ใกล้ชิดคุณปู่คุณย่าคือหลานวัย 8 ขวบ และลูกชาย หลานไปโรงเรียน ส่วนลูกชายไปทำงาน ส่วนคุณปู่คุณย่า อยู่กับบ้านไม่ได้ไปไหน

ภาพจาก รายการทุบโต๊ะข่าว

จากนั้น คุณปู่จึงเริ่มป่วยในวันที่ 23 ก.พ.และไปรักษาที่โรงพยาบาลบีแคร์ ตอนนั้นยังไม่มีการซักประวัติว่ามาจากญี่ปุ่นหรือเปล่า ทว่าตอนไข้ขึ้นหมอให้แอดมิตซึ่งในจังหวะนี้ก็มีการสัมผัสบุคลากรทางการแพทย์ด้วย

จากนั้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 63 คุณหมอได้เริ่มซักประวัติคุณปู่อย่างละเอียด คุณปู่ตอนแรกก็กังวลจึงวานคุณย่าไปบอกหมอด้วยว่า คุณปู่และคุณย่าเพิ่งมาจากญี่ปุ่น ซึ่งใช้เวลาบอกความจริงแค่ 5 นาทีเท่านั้นไม่ได้ตั้งใจปิดบัง
ด้านนายดรีม ลูกชายของคุณปู่กับย่า บอกว่าตนกราบขอโทษทุกคน ตนก็ไม่คิดว่าบ้านของตนจะเจอแจ็กพอตขนาดนี้ ตนขอโทษโรงเรียนลูกด้วยที่บอกข้อมูลช้า ครอบครัวตนตอนนี้ลำบากมากต้องเป็นจำเลยสังคม อยากให้ทุกคนระมัดระวังตัว และแก้ปัญหามากกว่าจะโยนว่าเรื่องนี้ใครผิด (เสียงสั่น)

ในส่วนของตนนั้น ตอนนี้อยู่ในช่วงกักตัวมีการตรวจร่างกายตนอย่างละเอียด ด้วยการเก็บตัวอย่างจากจมูก ปาก ลำคอ สอดท่อเข้าไป ส่วนอาการของคุณปู่ คุณย่า และน้อง 8 ขวบนั้น ตอนนี้ดีขึ้นทั้งหมดแล้ว

ด้านศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี นายกแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่าตนขอร้องว่าอย่าโจมตีครอบครัวดังกล่าว คนไทยทุกคนควรหาแนวทางป้องกัน และหากเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง ต้องแจ้งแพทย์เพื่อรักษาให้ทันเวล