ตามเจออีก 4 ผู้โดยสาร ที่ร่วมเดินทางกับปู่ย่าติดโควิด-19 แล้วปกปิดข้อมูล
ก่อนหน้านี้ เพจกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ได้เผยแพร่ข้อความติดตามผู้โดยสารที่เดินทางเที่ยวบินที่ XJ 621 ซัปโปโร-ดอนเมือง หมายเลขที่นั่ง 37-38-39-40 และ 41 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นเที่ยวบินเดียวกันกับปู่ย่า ซึ่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนติดไปยังหลานวัย 8 ปี พร้อมขอให้ผู้โดยสารเฉพาะแถวที่นั่งดังกล่าว เข้าตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล หรือติดต่อหมายเลข 096-750-7657 โดยด่วน ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ประสานงานกับสายการบินและบูรณาการกับหลายหน่วย เพื่อเร่งติดตามตัวผู้โดยสารที่เหลือในกลุ่มนี้นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังขอความดังกล่าวได้แพร่ในวงกว้างได้มีผู้ปกครองและครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ช่วยกันตรวจสอบจนพบว่า มีผู้โดยสารซึ่งเป็นผู้ปกครองนักเรียนของโรงเรียนได้เดินทางไปกับเที่ยวบินดังกล่าวจำนวน 4 คน
โดยเป็นผู้ประกอบธุรกิจร้านทองในเขตตัวเมืองวัฒนานคร ซึ่งหลังกลับจากญี่ปุ่นยังคงเปิดร้านทองตามปกติ และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่นเดียวกับผู้ใช้สังคมออนไลน์ในพื้นที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ที่พากันทวิตข้อความให้เบาะแสว่าได้รับข้อมูลจากนักเรียนโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ระบุว่าอาจารย์และครอบครัวใหญ่ตระกูลหนึ่งได้เดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่มีการติดต่อของไวรัสโควิด 19 ระยะที่ 3
แต่กลับแจ้งลาว่า ไปงานแต่งงานที่ต่างจังหวัด พร้อมทั้งนำภาพครอบครัวตระกูลดังกล่าวที่เดินทางไปเที่ยวประมาณ 15 คนเผยแพร่ และยังระบุอีกว่าปัจจุบันครอบครัวนี้ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในสังคมตามปกติ และไม่มีการกักตัวหรือเฝ้าระวังจนเกรงว่าอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อไปสู่นักเรียนและคนอื่นๆ จนผู้อำนวยการโรงเรียนต้องเรียกประชุมเพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าว และยังกลายเป็นกระแส วิพากษ์วิจารณ์ทั่วพื้นที่อยู่ในขณะนี้
กรณีดังกล่าว ยังทำให้นายสุวิจักขณ์ นารีรักษ์ เลขานุการ นายวันชัย นารีรักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองวังน้ำเย็น ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ต้องโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว หลังกลับจากเดินทางตนเองได้กักตัวเองอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และเพื่อปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งคนในครอบครัวของตนเองเป็นที่เรียบร้อย
พร้อมยังระบุอีกว่า หลังเดินทางกลับถึงไทยได้รีบกลับเข้าบ้านและสวมหน้ากากอนามัยรวมทั้งเสื้อผ้าที่มิดชิด โดยเสื้อผ้าทั้งหมดที่สวมใส่ในทุก ๆ วัน จะถูกแช่ด้วยเดตตอลและอบที่อุณหภูมิมากกว่า 50 องศาฯเซลเซียล รวมทั้งตนเองยังรับประทานอาหารโดยสั่งผ่านโทรศัพท์หรือใช้การส่งโดยไม่ออกไปพบปะผู้คน
รวมทั้งยังแจ้งให้โรงพยาบาลในท้องถิ่นทราบว่า ได้เดินทางไปยังประเทศเสี่ยงคือ ญี่ปุ่น อย่างไม่ปิดบัง ซึ่งการกระทำดังกล่าวปรากฏว่าได้รับการชื่นชมจากสังคมเป็นอย่างมาก
ขณะที่ ผศ.(พิเศษ) นายแพทย์สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ว่าตนเ
ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้ส่งจนท.ไปเฝ้าระวังผู้ต้องสงสัยที่บ้านเพื่อให้คำแนะนำแล้ว โดยขณะนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังและดูแล ซึ่งหากเกิดอาการต้องสงสัยก็จะเข้าดำเนินการตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขในทันที
จุดผ่านแดนเข้มตรวจอุณหภูมิคนเข้า-ออก
ส่วนบรรยากาศการตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญเฉลิม สุขย้อย เจ้าหน้าที่ประจำด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค ยังคงร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแรงงานชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยว ที่เดินทางข้ามแดนอย่างละเอียดทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดของโรคดังกล่าวในพื้นที่
นายชาญเฉลิม เผยถึงขั้นตอนการคัดกรองโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิมือถือนั้น หากผู้ที่มีอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา ฯจะถูกกักตัวเพื่อทำการวัดซ้ำ และหากพบว่าเกินกว่าที่กำหนดอีกครั้งก็จะถูกซักประวัติ
เบื้องต้นในทันที รวมทั้งหาก มีอาการมีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ หายใจลำบากร่วมด้วยก็จะถูกแยกกักตัวไปยังโรงพยาบา, โดยตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ด่านเขาดินยังไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการเข้ากับ PUI หรืออาการเข้ากับโรคไวรัสโควิด 19 แต่อย่างใด
ที่มา MGR Online
No comments